โปรแกรม Canva เป็นโปรแกรมออกแบบยอดนิยมที่ใช้งานง่าย และสามารถออกแบบกราฟิกได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานเพื่อใช้ลง Social Media, Presentation, งานสิ่งพิมพ์ รวมไปถึงภาพเคลื่อนไหว ทั้งนี้ยังสามารถใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ จึงทำให้คุณสามารถสร้างดีไซน์สวย ๆ ได้ในไม่กี่นาที และยังมี Template ให้เลือกมากมาย ที่จะช่วยให้ชิ้นงานออกแบบของคุณมีคุณภาพอีกด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่อยากเริ่มทำกราฟิกด้วยโปรแกรม Canva และต้องการที่จะนำงานที่ออกบบเสร็จแล้วไปพิมพ์เพื่อใช้งานจริง วันนี้เราก็มีวิธีการเตรียมไฟล์งานจากโปรแกรม Canva สำหรับส่งโรงพิมพ์ มาฝากกันค่ะ รับรองว่าทำง่าย ได้งานคุณภาพแน่นอนค่ะ
การเตรียมไฟล์งานจากโปรแกรม Canva สำหรับส่งโรงพิมพ์
เลือกเทมเพลตที่เหมาะกับงาน
สิ่งแรกที่คุณจะต้องทำก่อนเริ่มออกแบบอาร์ตเวิร์ค คือ เลือกเทมเพลตสำหรับงานพิมพ์ที่คุณจะทำ เมื่อเลือกเทมเพลตได้แล้ว ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีขนาด และรูปแบบที่เหมาะสมกับความต้องการในการพิมพ์ของคุณแล้วหรือไม่ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังออกแบบการ์ดอวยพร คุณจะต้องเลือกเทมเพลตที่เหมาะกับขนาดที่คุณต้องการ และสามารถปรับขนาดของไฟล์ได้ตามต้องการอีกด้วย
ออกแบบอาร์ตเวิร์ค
หลังจากที่คุณเลือกเทมเพลตได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การออกแบบงานอาร์ตเวิร์ค ซึ่งในโปรแกรม Canva มีเครื่องมือมากมายที่จะช่วยคุณสร้างงานออกแบบที่สวยงาม รวมถึงข้อความ รูปภาพ และรูปทรงต่าง ๆ ทั้งนี้ในการออกแบบอาร์ตเวิร์คของคุณ ให้คำนึงถึงกระบวนการพิมพ์หลังจากนั้นด้วย ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้รูปภาพ ก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าอัปโหลดไฟล์มาแบบความละเอียดสูง เพื่อไม่ให้ภาพเบลอแตกเมื่อสั่งพิมพ์ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ข้อความขนาดเล็กเกินไป เนื่องจากอาจไม่สามารถอ่านได้เมื่อพิมพ์ออกมานำไปใช้งาน
กำหนดพื้นที่ขอบกระดาษเผื่อระยะตัดตก และระยะขอบ
เมื่อคุณออกแบบอาร์ตเวิร์คเสร็จแล้ว ขั้นต่อไป คือ การเตรียมไฟล์ โดยการกำหนดพื้นที่ขอบกระดาษเผื่อระยะตัดตก และระยะขอบ โดยระยะตัดตก (Bleed) จะตั้งระยะเผื่อพื้นที่ของงานในส่วนที่เป็นพื้นหลังให้กว้างกว่าขนาดของงานจริงออกไป ซึ่งจะให้สี และลวดลายของส่วนที่ตั้งระยะเผื่อเป็นสี และลวดลายเดียวกันกับพื้นหลัง หรือก็คือพื้นที่ที่อยู่นอกขอบงานออกไป และพื้นที่ส่วนนี้จะถูกตัดทิ้งไปโดยไม่ได้ใช้งานแต่อย่างใด ทั้งนี้ระยะตัดตกจะป้องกันให้งานพิมพ์ไม่มีขอบสีขาวนั่นเอง ส่วนระยะขอบ (Margin) ซึ่งจะอยู่ด้านในขอบของชิ้นงานเข้ามา เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากการวางตัวอักษร และลวดลายกราฟิกที่มีความสำคัญ และส่วนนี้จะไม่ถูกตัดจากเครื่องตัดกระดาษ
ในการทำงานควรต้องเผื่อระยะตัดตก และระยะขอบ เพื่อป้องกันการคลาดเคลื่อนจากการตัดกระดาษ ซึ่งระยะขอบ (Margin) และระยะตัดตก (Bleed) เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้รูปภาพของสิ่งพิมพ์ออกมาสวยงามได้ตามที่ต้องการ โดยไฟล์ที่จะส่งพิมพ์ในระบบดิจิตอล ควรมีระยะขอบทุกด้านอย่างน้อย 3 มม. และระยะตัดตกทุกด้านอีก 3 มม. เพื่อที่ชิ้นงานที่ออกแบบมีความเรียบร้อยตรงกับความต้องการของเรา โดยวิธีกำหนดให้งานมีระยะตัดตก และระยะขอบ ดังนี้
- เปิดงานที่ออกแบบเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกที่ File > Show Margin , Show print bleed ตัวนี้คือระยะปลอดภัยกับตัดตกถูกต้อง
- คลิก Download แล้วเลือก File type เป็น PDF Print จากนั้นติ๊กถูกที่ Crop marks and bleed เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เซฟไฟล์ที่ออกแบบสำเร็จ
หลังจากที่คุณออกแบบอาร์ตเวิร์คเรียบร้อยแล้ว และกำหนดพื้นที่ขอบกระดาษเผื่อระยะตัดตก และระยะขอบเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การเลือกรูปแบบไฟล์สำหรับการส่งออกงานออกแบบของคุณทั้ง PDF, PNG และ JPEG แต่ถ้าคุณต้องการจะนำงานไปพิมพ์ ให้เซฟไฟล์เป็น PDF คุณภาพสูง เพราะจะได้ภาพที่คมชัดดีระดับที่ใช้พิมพ์ได้ โดยวิธีการเซฟไฟล์ที่ออกแบบสำเร็จมีดังนี้
1. เมื่อสร้างผลงานสำเร็จแล้วให้ กด “แชร์ (Share)” ที่มุมขวาบนของหน้าจอ เลื่อนมาด้านล่างขวา จากนั้นกด “ดาวน์โหลด (Download)”
2. เลือกประเภทไฟล์เป็น “PDF Print” จากนั้น เลือก “Cropmarks and bleed”
การเซฟงาน เพื่อส่งโรงพิมพ์
- การเซฟไฟล์สกุล PDF ให้เลือกเป็น PDF Print จะได้ภาพที่คมชัดดีระดับที่ใช้พิมพ์ได้ โดยอย่าลืมทำเครื่องหมายถูกที่ Crop marks and Bleed ด้วยเพื่อให้โชว์เส้นมาร์ค และระยะตัดตกในตัวไฟล์
- การเซฟไฟล์สกุล PNG ให้เลือกมาที่ขนาดที่ใหญ่ที่สุด (Size x) โดยมากไฟล์ PNG จะนิยมเซฟคู่กันมากับไฟล์ PDF เพื่อส่งโรงพิมพ์เพื่อเทียบเคียงความถูกต้องว่า Save ไฟล์ PDF หรือ SVG มาแล้วข้อมูลไม่ตกหาย ฟอนต์ไม่ผิดเพี้ยน
- การเซฟไฟล์สกุล SVG จะเซฟได้เฉพาะ Canva Pro เท่านั้น ซึ่งไฟล์ภาพจะมีความคมชัดสูง และมาเป็นลักษณะลายเส้น (Vector) ทางโรงพิมพ์จะนำไฟล์นี้ มาใช้ในการพิมพ์จริง โดยใช้โปรแกรม Illustrator (Ai) หรือ Indesign (Ind) คุณภาพงานจะมีความคมชัดสูงสุดกว่า PDF และ PNG
ตรวจสอบอาร์ตเวิร์ค
สิ่งที่สำคัญหลังจากที่คุณทำการเซฟไฟล์งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณจะต้องตรวจสอบข้อผิดพลาด ให้แน่ใจว่าไม่มีการสะกดคำผิด และใช้ไวยากรณ์ได้อย่างถูกต้อง ตลอดจนการจัดวางรูปภาพ และข้อความที่สวยงาม และถูกต้อง นอกจากนี้ คุณควรตรวจสอบความละเอียด และโหมดสีเพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับความต้องการในการพิมพ์ของคุณ
อัปโหลดอาร์ตเวิร์ค
เมื่อตรวจสอบอาร์ตเวิร์คของคุณเสร็จแล้ว และไม่มีอะไรที่จะต้องแก้ไข ก็ถึงเวลาอัปโหลดส่งไฟล์ไปยังโรงพิมพ์ แต่ทั้งนี้ก่อนจะส่ง ต้องพูดคุยกับโรงพิมพ์เรื่องการเซฟไฟล์ เพื่อให้เซฟไฟล์สกุลที่เหมาะกับส่งโรงพิมพ์มากที่สุด ซึ่งจะทำให้ได้ไฟล์งานที่ถูกต้อง และพร้อมพิมพ์ที่สุด โดยไม่ต้องกลับมาแก้ไขใหม่ ซึ่งจะทำให้คุณได้งานที่รวดเร็ว และถูกต้อง
สรุป
ทั้งหมดก็เป็นวิธีการการเตรียมไฟล์งานจากโปรแกรม Canva สำหรับส่งโรงพิมพ์ ที่คุณสามารถดูวิธี และทำตามได้ง่าย ๆ เลยค่ะ แต่ทั้งนี้ก่อนจะส่งไฟล์ให้กับโรงพิมพ์ก็ต้องตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ ในงานออกแบบให้เรียบร้อย เพื่อให้ได้ไฟล์งานที่ถูกต้อง และพร้อมพิมพ์ที่สุดค่ะ
สำหรับใครที่สนใจอยากพิมพ์งานพิมพ์ต่าง ๆ สามารถติดต่อ โรงพิมพ์ Ricco ของเราได้ เรายินดีให้บริการออกแบบและผลิตงานพิมพ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น คูปอง ใบปลิว การ์ด เมนูอาหาร ปฏิทิน สมุด กล่องบรรจุภัณฑ์ ฯลฯ ทุกแบบ ทุกประเภท โดยไม่มีจำนวนจำกัด เรามีทีมกราฟิกที่จะช่วยออกแบบได้ตามที่คุณต้องการ และเรายังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านงานพิมพ์หนังสือ พร้อมด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัย รับประกันงานพิมพ์คุณภาพและการบริการที่รวดเร็ว
เกี่ยวกับ Ricco
บริษัท ริคโค จำกัด เริ่มดำเนินธุรกิจเมื่อปี พ.ศ. 2539 เราให้บริการออกแบบ และผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ด้วยเครื่องพิมพ์ระบบ Offset และ Digital ที่ทันสมัยที่สุด สามารถรองรับงานพิมพ์ได้หลากหลายประเภท เรามีความเป็นมืออาชีพและครบวงจรทางด้านสื่อสิ่งพิมพ์ (One Stop Service) ด้วยประสบการณ์มากกว่า 24 ปี ทำให้เราสร้างสรรค์งานพิมพ์คุณภาพอยู่เสมอ
ทั้งนี้เรายังมีบริการป้อนข้อมูลหรือบริการคีย์ข้อมูลใบสมัคร แบบฟอร์มต่างๆ บริการจัดการ ปรับปรุง แก้ไข ตรวจสอบฐานข้อมูลเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลที่มีอยู่ยังคงเป็นข้อมูลที่สมบูรณ์ บริการตรวจสอบข้อมูลตามเงื่อนไข การตลาดทางตรงในรูปแบบสื่อสิ่งพิมพ์ สามารถเจาะจงลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเราจะสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า เพื่อให้เป็นโรงพิมพ์ที่ลูกค้าไว้วางใจ
